26 ตุลาคม 2566 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ นำโดยพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ (นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร) พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การตลาดข้าวเปลือกปีการผลิต 2566/67 ในพื้นที่อำเภอสตึก  อำเภอบ้านด่านและอำเภอห้วยราช ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ข้าวหอมมะละพันธุ์ กข 15 เริ่มออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก จากการลงพื้นที่ พบว่า เกษตรกรมีการนำข้าวเปลือกหอมมะลิ มาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก โดยเป็นข้าวเปลือกสด (ความชื้น 25 % ขึ้นไป)  เพื่อนำเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยว โดยผู้ประกอบการค้าข้าวในพื้นที่ ทั้งโรงสี และท่าข้าว มีการรับซื้อในราคาตันละ 11,000-11,500 บาท เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมาที่มีการเปิดรับซื้อ ราคาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง (ราคาสัปดาห์ที่ผ่านมา ตันละ 12,500-13,000) ซึ่งจากการสอบถาม ผู้ประกอบการโรงสี ถึงสาเหตุการปรับราคาซื้อลง เนื่องจาก ผู้ส่งออกไม่มีคำสั่งซื้อเข้ามาประมาณ10กว่าวันมาแล้ว ประกอบกับ ธนาคารผู้ให้สินเชื่อ ที่เคยให้สินเขื่อ ไม่ปล่อยสินเชื่อให้ ซึ่งคาดว่าราคารับซื้อมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงอีก ตามปริมาณผลผลิตที่จะออกมาเพิ่มขึ้น ในส่วนของเกษตรกรนั้น ต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการเกี่ยวกับการดูแลราคาข้าวเปลือกให้เร็ว เช่นโครงการชะลอการขายข้าวโดยฝากไว้ในยุ้งฉางกับ ธ.ก.ส. เพื่อที่เกษตรกรจะได้ตากข้าวไว้และเก็บไว้ในยุ้งฉาง และเพื่อที่จะรองรับข้าวเปลือกหอมมะลิ พันธุ์ 105 ซึ่งจะออกสู่ตลาดมากช่วงตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป  ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้กำชับให้มีการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ การหักสิ่งเจือปน การหักลดความชื้นให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ และปิดแสดงไว้ให้เห็นได้ชัดเจน หากพบว่าผู้ประกอบการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกร จะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป